ปี่เซียะ ถือว่าเป็นเครื่องรางที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เราจะสังเกตุเห็นได้ว่า จะเป็นสร้อยข้อมือร้อยด้วยหิน มีลักษณะสวยงาม นำพาซึ่งความโชคดีมาให้
ปี่เซียะ สุดยอดวัตถุมงคล โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน คนไทยเชื้อสายจีนจะนิยใช้กันอย่างวงกว้างโดยพุทธคุณหลักๆคือ เรียกโชคลาภ อำนาจเงินทอง แถมยังช่วยกักเก็บเงินทองไม่ให้รั่วไหลไปไหนอีกด้วย ซึ่งมีประวัติและตำนานที่อยู่คู่กับคนจีนและราชวงศ์จีนมานานนับพันปี วัตถุมงคลปี่เซียะเป็นสัตว์ตามตำนานของจีน รวมสัตว์ 5 ชนิด เข้าไว้ด้วยกัน มังกร ตัวแทนสัตว์ที่ทรงอำนาจที่สุด, สิงโต ตัวแทนสัตว์ทรงพลังช่วยปราบสิ่งชั่วร้าย, พญาอินทรี ตัวแทนสัตว์ที่มีความแข็งแกร่งกล้าหาญ, กวาง ตัวแทนแห่งความยั่งยืนร่ำรวยพร้อมชื่อเสียง, และ แมว สัตว์ตาทิพย์
สำหรับ ปี่เซียะ ในรูปแบบของสร้อยข้อมือ จะได้รับความนิยมมากกว่าชนิดสร้อย ถามว่ามีคนใช้แบบสร้อยไหม ตอบเลยว่า ทว่าแบบสร้อยข้อมือนั้นมากกว่า เพราะสะดวกในการพกพาติดตัว สามารถลูบตัวปี่เซียะเพื่อพูดคุยขอโชคลาภจากวัตถุมงคลปี่เซียะได้ทุกเวลาที่ต้องการ
ตามความเชื่อแล้ว ปี่เซียะจะให้คุณประโยชน์ก็ต่อเมื่อเจ้าของมีการลูบตัวและพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ วัตถุมงคลปี่เซียะโดยทั่วไปจะไม่ได้รับการปลุกเสก สมัยโบราณคนจีนจะนำพวก หิน แร่ หยก ที่ตัวเองมีความชอบหรือศรัทธาอยู่แล้วมาขอพร ด้วยการนำไปศาลเจ้าแล้วไหว้อธิษฐานจิตแล้วก็ติดตัวบูชาได้เลย
คนที่เหมาะกับวัตถุมงคลปี่เซียะ คือคนที่เน้นเรื่องการค้าขาย เจรจาธุรกิจทั่วไป และต้องการเก็บเงินเก็บทองให้ได้มากที่สุด โดยมีเคล็ดลับอยู่ที่การสัมผัสลูบคลำและพูดคุยกับปี่เซียะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดสมาธิอยู่กับปี่เซียะ เมื่อปี่เซียะได้รับพลังจากผู้ใช้ บวกกับพลังในตัว จะส่งผลให้ผู้ใช้มีโชคไม่ขาดมือ
โดยแต่ละแบบก็จะมีความหมายที่ช่วยเสริมเรื่องต่างๆ แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ปี่เซียะแบบเดี่ยว พุทธคุณคือ จะเสริมในเรื่องของการเงิน การค้าขายทำกำไร เหมาะสำหรับผู้ทำธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยคุ้มครองเมื่อต้องเดินทางไกล ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย หากทำเป็นสร้อยข้อมือปี่เซียะ จะนิยมสวมไว้ที่มือซ้าย เพราะเชื่อว่าคือตำแหน่งมังกรเขียว
ปี่เซียะแบบคู่ เหมาะกับอาชีพการติดต่อเจรจา โดยพุทธคุณของปี่เซียะแบบคู่ จะช่วยให้การต่อรองให้ได้เปรียบ การตกลงเรื่องต่างๆ จึงราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี และทั้งช่วยเสริมเรื่องอำนาจบารมี ผู้คนให้ความเชื่อถือ หากทำเป็นสร้อยข้อมือปี่เซียะ จะนิยมสวมไว้ที่มือขวา เพราะเชื่อว่าคือตำแหน่งเสือขาว