ตำนานผีปอบ กับตำนานความเชื่อของคนไทย ที่มีการเล่าขานมาอย่างช้านานและในปัจจุบันผีปอบก็ยังคงมีอยู่
ตำนานผีปอบ หรือการเป็นผีปอบ มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีวิชาทางไสยศาสตร์และมีมนต์ดำที่แก่กล้า สามารถใช้วิชาเหล่านั้นเพื่อไปทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายได้ อาทิ การทำเสน่ห์ยาแฝด การเสกหนังควายเข้าท้อง การเสกผมเข้าท้อง การเสกตะปูเข้าท้อง หรือการใช้มนตราเพื่อบังคับภูติ ผี วิญญาณ ให้เข้าไปสิง หรือกระทำในสิ่งที่ตนต้องการ เรื่องราวของผีปอบนั้นถูกเล่าขานกันมาเป็นเวลานาน และได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวของผีปอบผ่านรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นละคร หรือภาพยนตร์ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป แต่ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวความเป็นมาว่าผีปอบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
จุดกำเนิดของผีปอบตามความเชื่อ
ว่ากันว่าผีปอบที่คนโบราณ หรือคนในยุคปัจจุบันนี้พบเห็นกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นวิญญาณผีปอบที่เกิดจากคนที่เรียนวิชาปอบที่ตายไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ เมื่อตนมีชีวิตอยู่ยึดติด ยึดมั่นในวิชาอย่างไร พอตายจากโลกนี้ไปก็ยังเป็นเช่นนั้น เช่น ยังอยากกินเนื้อดิบๆ เครื่องในสดๆ ก็เลยหาวิธีเข้าสิงคนเพื่ออาศัยร่างเหล่านั้นในการหากินของดิบๆ สดๆ ต่อไป มีภาวะคล้ายๆ กับ “ สัมภเวสี ” หรือ “ อสูรกาย ” ซึ่งผีปอบเหล่านี้เมื่อแผ่ส่วนบุญไปให้ พูดคุยขับไล่ก็จะออกง่ายกว่าพวกที่เรียนวิชาแล้วกลายเป็นผีปอบ หรือจำพวกที่มีการสืบทอดแท้ๆ หากเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่มีวิชาอาคมมาก และมีจิตแข็ง พลังจิตสูงจะไล่ยาก อีกทั้งยังสามารถเอาชีวิตคนที่มีเวรกรรมต่อกันได้ เรียกว่า “ ผีปอบเจ้ากรรมนายเวร ” โดยผีปอบประเภทนี้สามารถทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้สามารถอโหสิกรรมได้
ประเภทของผีปอบ
ผีปอบสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท โดยมีลักษณะทางกายภาพที่สามารถสังเกตเห็นได้ดังนี้
- ผีปอบธรรมดา คือ คนที่มีร่างของผีปอบสิงสู่อยู่ เมื่อบุคคลเหล่านี้ได้ตายไป ผีปอบที่สิงอยู่ในร่างก็จะสลายตามไปด้วย
- ผีปอบเชื้อ คือ หากในครอบครัวใดที่มีพ่อแม่เป็นผีปอบ เมื่อตายไป ลูกหลานจะต้องสืบทอดเชื้อสายการเป็นผีปอบต่อไปด้วย หรือในอีกแง่หนึ่งก็อาจเป็นการสืบต่อทางพันธุกรรมที่ไม่ว่าจะเต็มใจ หรือไม่เต็มใจก็ตาม ก็ต้องรับสืบทอดต่อกันไปไม่มีวันจบสิ้น
- ผีปอบแลกหน้า คือ ผีปอบที่มีความเจ้าเล่ห์ มักชอบโยนความผิดไปให้ผู้อื่น กล่าวคือ เวลาที่ผีปอบประเภทนี้เข้าไปสิงใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อถูกถามว่ามีผู้ใดเลี้ยง ผีปอบประเภทนี้จะไม่ยอมบอกความจริง แต่จะไปพูดจาโทษคนนั้นคนนี้โดยผู้ที่ถูกกล่าวถึงไม่ทราบเรื่องอะไรเลย
- ผีปอบกักกึก คือ ผีปอบที่ไม่ยอมพูดจนกว่าจะมีคนถาม หรือจนกว่าจะมีญาติพี่น้องตามหมอผีมาขับไล่ ผีปอบจึงจะยอมเปิดปากพูดความจริงว่าใครเลี้ยงดูผีปอบตนนี้ไว้ หรือมีใครใช้ให้มาเข้าสิง ซึ่งในภาษาอีสานนั้น คำว่า “ กึก ” แปลว่า ใบ้
ลักษณะของผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิง
ชาวอีสานมักเรียกผู้ถูกผีปอบเข้าสิงว่า “ ปอบเข้า ” โดยจะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันไป บางคนอาจแสดงลักษณะอาการก้าวร้าย ดุร้าย บางคนอาจนอนซมคล้ายกับคนป่วยไข้หนัก แต่บางคนก็อาจจะร่ำไห้ รำพึงรำพันไปต่างๆ นาๆ ลักษณะอีกหนึ่งอย่างที่เราสามารถพบเห็นได้อยู่ทั่วไป คือ ผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิงมักจะเรียกหาอาหารที่สุกๆ ดิบๆ อาทิ ตับหมู ตับไก่ เวลากินก็จะมูมมาม แสดงความตะกละออกมา และกินจุได้มากกว่าปกติ ซึ่งเมื่อญาติพี่น้องที่รู้ว่ามีคนที่ป่วยนั้นกำลังถูกผีปอบเข้าสิงก็มักจะไปตามหมอผีให้มาช่วยขับไล่ และอีกข้อสงสัยที่ว่า
ทำไมปอบถึงต้องกินแต่ของคาว ของสด
ตามตำนานของทางพระพุทธศาสนาเล่าว่าผีปอบ คือ ” ผีสายยักษ์ “ อยู่ในสายการปกครอง ของท้าวเวสสุวัณ ที่เข้าสิงร่างมนุษย์ ก็เพื่ออาศัยร่างมนุษย์กินอาหาร โดยเฉพาะอาหารดิบๆ หรือ สัตว์เป็นๆ เช่น ไปหักคอเป็ด ไก่ ในเล้ากิน หรืออาศัยร่าง เหมือนเป็นร่างทรง แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าสิงได้ทุกคน จะเข้าสิงร่างมนุษย์ที่มีวิบากกรรมทางนี้ คือ อดีตเคยนับถือผีเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกยามมีทุกข์ จนเป็นประเพณีธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา มีจิตผูกพันกับผี และกรรมทำปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ เช่น ไหว้ผี บางทีก็ฆ่าสัตว์เล็ก เช่น เป็ด ไก่ บางทีก็ฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย เป็นต้น
ได้รู้ประวัติความเป็นมาของการเป็น ผีปอบ กันแล้วเป็นยังไงกันบ้าง ? ถึงแม้ว่าในยุคสมัยนี้จะไม่ค่อยได้เห็นพิธีการไล่ผีปอบกันสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพิธีกรรมเหล่านี้จะหายไปจากสังคม สิ่งที่เราทำได้คือการใช้ชีวิตให้อยู่บนความสุจริต คิดดี ทำดี แล้วก็อย่าลืมหมั่นทำบุญทำทานกันด้วย เราจะได้อยู่รอดปลอดภัย ไม่สามารถมีภัยอันตรายใดใดมาทำลายเราได้
หากต้องการดูเรื่องลี้ลับเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลย >> HUAY-LEKDED.COM