หลวงปู่ทวด พระเกจิอาจารย์ในตำนาน ที่มีความเชื่อและศรัทธามากที่สุด ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน
หลวงปู่ทวด ความเชื่อและความศรัทธา ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน หลายๆคน ที่มีความศรัทธาทางด้านพระพุทธศาสนา คงเคยได้ยินกับชื่อเสียงเรียงนาม เกี่ยวกับตำนานของพระเกจิอาจารย์อย่าง หลวงปู่ทวด กันมาบ้างแล้ว ซึ่งถือเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยจากตำนานท้องถิ่นที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันความมีอยู่จริง วันนี้แอดมินจะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงความเป็นมาของหลวงปู่ทวดกันค่ะ
หลวงปู่ทวด (หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ , หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด , สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ ) เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยจากตำนานท้องถิ่นซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ยืนยันความมีอยู่จริง ประวัติที่พิมพ์เผยแพร่กล่าวว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง
ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ในตำนานที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก รูปสำคัญ 1 ใน 2 มหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทย คู่กับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พฺรหฺมรํสี ) ( หลวงปู่โต ) ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
ประวัติหลวงปู่ทวด
หลวงปู่ทวด เป็นพระสงฆ์ที่มีชีวิตอยู่จริงในสมัยอยุธยา รัชสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ ประวัติหลวงปู่ทวดอาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปบ้าง ขึ้นอยู่กับตำนานในแต่ละท้องถิ่น แต่เรื่องเล่าหลักค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ราวปี พ.ศ. 2125 นายหู และนางจันทร์ ชาว อ.สทิงพระ จ.สงขลา ได้ให้กำเนิดลูกชาย ตั้งชื่อให้ว่า ” ปู ” โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พ่อแม่ผูกเปลลูกไว้กับต้นเม่าระหว่างที่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ในนา แต่ปรากฏว่ามีงูจงอางตัวใหญ่เลื้อยมาพันรอบเปล ทั้ง 2 คนจึงตั้งจิตอธิษฐานไม่ให้งูจงอางทำร้ายลูก หลังจากนั้นงูก็คลายรัดเปลและเลื้อยหนีหายไป ทว่าได้คายเมือกแก้วทิ้งไว้บนตัวทารกด้วย ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นลูกแก้วขนาดใหญ่แวววาว
เมื่อเศรษฐีที่เป็นเจ้านายของนายหู และนางจันทร์ รู้เรื่องเข้า ได้บังคับเอาลูกแก้วมาเก็บไว้เอง แต่ชีวิตกลับเจอแต่อุปสรรค ฐานะความเป็นอยู่เริ่มขัดสน จึงต้องคืนลูกแก้วให้แก่เด็กชาย พร้อมทั้งยกหนี้สิน และปลดปล่อยนายหู และนางจันทร์ ให้หลุดพ้นจากการเป็นทาสในเรือนเบี้ย
ต่อมาเมื่อเด็กชายอายุ 7 ปี พ่อแม่ส่งไปเรียนหนังสือกับพระอาจารย์ที่วัด และได้บวชเป็นสามเณรเพื่อศึกษาธรรมะ ซึ่งวัดที่ท่านได้เล่าเรียนก็คือ วัดดีหลวง และวัดสีหยัง ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอยู่จริง ตั้งอยู่ใน อ.สทิงพระ จ.สงขลา ท่านได้เดินทางไปเรียนนักธรรมที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะเดินทางธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธา และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรถ
อภินิหารที่มาของ ” หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ”
ผู้ที่นับถือหลวงปู่ทวดเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาที่น่าเลื่อมใสศรัทธา มีเรื่องราวอภินิหารที่เล่าสืบต่อกันมานานกว่า 400 ปี จนกลายเป็นที่มาของคำว่า ” หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ” ดังนี้
สมัยที่ท่านยังมีชีวิต ท่านได้ขออาศัยเรือสำเภาเพื่อเดินทางไปยังกรุงศรีอยุธยา แต่ระหว่างทางเกิดพายุลมมรสุม ทำให้เรือสำเภาต้องจอดพักที่เกาะแห่งหนึ่งจนน้ำดื่มหมด ลูกเรือต่างพากันคิดว่า ตั้งแต่เดินเรือมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เมื่อรับพระสงฆ์รูปนี้ขึ้นเรือก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนลำบาก จึงคิดวางแผนปล่อยหลวงปู่ทวดไว้ที่เกาะ ทว่าท่านได้แสดงอภินิหารด้วยการจุ่มเท้าซ้ายลงในน้ำทะเล ปรากฏว่าน้ำบริเวณนั้นกลายเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มกินได้ ทำให้เจ้าของเรือต้องขมาท่าน และนิมนต์ขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปยังกรุงศรีอยุธยาต่อไป
ในขณะที่บางตำนานก็เล่าว่า มีโจรสลัดจับท่านขึ้นเรือเพื่อหวังลองดี แต่เรือกลับแล่นต่อไม่ได้ ลอยอยู่กลางทะเลหลายวันจนน้ำดื่มหมด ท่านจึงจุ่มเท้าซ้ายลงในทะเล ทำให้น้ำทะเลบริเวณที่ท่านจุ่มเท้าลงไปกลายเป็นน้ำจืดให้ดื่มกิน เหล่าโจรจึงเกิดความศรัทธา กราบไหว้ขอขมา นำท่านมาส่งกลับ เมื่อประชาชนรู้ข่าวก็พากันเลื่อมใสท่านนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน
หนึ่งในลูกศิษย์
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อด้วยว่า ” ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ ” แห่งวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวด ที่รักษาสัจวาจาในการดูแลรักษาวัดเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา
หลวงปู่ทวด มีชื่อเรียกแตกต่าง
ในแต่ละพื้นที่ ชาวปักษ์ใต้นิยมเรียกท่านว่า ” หลวงพ่อทวด ” ตามประวัติเล่าว่าเมื่อท่านอายุ 80 ปี ได้เดินทางกลับจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ทำให้ชาวบ้านเรียกท่านว่า ” สมเด็จเจ้าพระโคะ ” หรือ ” หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ ” ขณะเดียวกัน ท่านก็เคยเป็นเจ้าอาวาสที่วัดช้างให้ อ.โคกโพธ์ จ.ปัตตานี จวบจนมรณภาพ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2225 สิริรวมอายุได้ 99 ปี และได้สั่งให้บรรจุอัฐิท่านไว้ ณ วัดแห่งนี้ ทำให้ลูกศิษย์เรียกท่านว่า ” หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ “
นอกจากพื้นที่ทางภาคใต้ ยังมีการประดิษฐานหลวงพ่อทวด พระนามาภิไธย ส.ก. หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร ณ วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง ” หลวงปู่ทวดวัดห้วยมงคล ” ถือว่าเป็นองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนทางภาคกลางก็มีการสร้าง ” อุทยานหลวงปู่ทวด ” หรือ ” พุทธอุทยานมหาราช ” ประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่สีทอง ความสูงจากฐานรวม 51 เมตร อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ชาวไทยทั่วประเทศได้เดินทางไปกราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
หากต้องการดูเรื่องตำนานลี้ลับเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลย >> HUAY-LEKDED.COM